จำหน่าย ของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึก ของรับไหว้ ของฝาก ของพรีเมี่ยม จากเครื่องเบญจรงค์ ด้วยงานฝีมือปราณีต
5 สี "เบญจรงค์" ชื่อเรียกเครื่องถ้วยชนิดหนึ่งที่มีใช้ในประเทศไทยแต่ครั้งอยุธยาสืบถึงรัตนโกสินทร์ เป็นเครื่องถ้วยที่สั่งทำพิเศษจากแผ่นดินใหญ่โพ้นทะเล ช่างไทยออกแบบ ให้ลาย ให้สี ส่งไปให้ช่างจีนผลิตในประเทศจีน แล้วช่างไทยก็ตามไปควบคุมการผลิตให้ออกมาได้รูปลักษณะงามอย่างศิลปะไทย โดยเฉพาะลวดลายสีสันแสดงเอกลักษณ์ไทยชัดเจน
เครื่องเบญจรงค์หมายถึงเครื่องปั้นดินเผาเคลือบ เขียนลายโดยลงยาด้วยสีต่างๆ นอกจากสีหลักทั้ง 5 อันมีสีดำ ขาว เหลือง แดง และเขียว(หรือคราม) ยังมีสีรองอย่างชมพู ม่วง น้ำตาล แสด มาเสริมสวย เป็นเครื่องถ้วยที่ต้องใช้ฝีมือสูง ต้องละเอียด ประณีต จากเครื่องใช้ในรั้วในวังถึงปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ยังได้รับความนิยมโดยเฉพาะในแง่เป็นตัวแทนแสดงความเป็นไทย (แม้รากฐานจะเป็นของจีนก็ตาม)
ย้อนอดีตสู่ช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 รัชสมัยจักรพรรดิซวนเต๊อะ (ครองราชย์พ.ศ.1969-1978) ราชวงศ์หมิง มีการผลิตเครื่องเคลือบเขียนลายลงยาขึ้นครั้งแรกที่แคว้นกังไซ (ไทยเรียกกังไส ที่มาของชื่อเรียกเครื่องกังไส) มณฑลเจียงซี และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในรัชสมัยจักรพรรดิเฉิงฮั่ว (พ.ศ.2008-2030) การเขียนลายโดยวิธีลงยาดังกล่าวใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป
ถึงยุคจักรพรรดิวั่นลิ (พ.ศ.2116-2162) มีการผลิตเครื่องเคลือบแบบเบญจรงค์มากที่สุด ติดต่อมาถึงสมัยราชวงศ์ชิง (ปกครองจีนระหว่างพ.ศ.2187-2454) ความสวยงามเข้าตาสยาม จีนรับออร์เดอร์ไม่หวัดไหวให้ผลิตภาชนะเป็นแบบไทย มีการเขียนลาย ให้สี ส่งเป็นตัวอย่างมาให้ เป็นเบญจรงค์ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นของไทยอย่างยิ่ง ครั้นจะผลิตเองยามนั้นก็ออกจะติดขัดอยู่ เนื่องจากไทยยังไม่มีเทคนิคการผลิตที่ดี มีแต่ฝีมือเยี่ยมในการออกแบบลวดลายได้วิจิตร
เครื่องเบญจรงค์มาแรกเริ่มผลิตในประเทศไทยในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง เป็นเตาเผาของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ
เครื่องเบญจรงค์ หรือเรียกเครื่องถ้วย มีทั้งแก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ กาน้ำชา ชุดถวายข้าวพระพุทธ ตลับใส่ของ และนานา ขั้นตอนการผลิตเริ่มจาก 1.นำเครื่องเคลือบขาวมาล้างให้สะอาด (หากสามารถ เป็นเครื่องดินเผาที่ปั้นเองก็เข้าที แล้วนำมาเคลือบขาว) 2.ตั้งแป้นวนเส้นกำหนดลาย 3.เขียนลายด้วยน้ำทอง 4.ลงสี 5.วนทองส่วนที่เหลือ และ 6.เข้าเตาเผา
ลายยอดนิยมคือลายกระหนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม นรสิงห์
เครื่องเบญจรงค์ เป็นงานหัตถศิลปล้ำค่า ที่มีความสวยงามแสดงถึงวิถีวัฒนธรรม รสนิยม และเอกลักษณ์ของไทย รัฐบาลจึงเลือกนำมาเป็นภาชนะสำหรับจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภูมิภาคเอเซีย และแปซิฟิค (เอเปค 20003) ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯระหว่างวันที่ 20 – 21 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังจัดทำเป็นของที่ระลึกเพื่อมอบให้กับผู้นำประเทศต่างๆ อีกด้วย
เครื่องเบญจรงค์มีการผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด แต่สันนิษฐานจากการขุดพบที่พระนครศรีอยุธยา และจากลักษณะของลวดลาย สี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องถ้วยจีน และบางชิ้นที่มีเครื่องหมายบอกรัชกาล เชื่อว่ามีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์จากประเทศจีนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยช่างคนไทยจะเป็นผู้วาดลวดลาย และเขียนสี ส่งไปผลิตในจีน ดังนั้นลักษณะของเครื่องเบญจรงค์จึงมีความงดงามอย่างไทย ยิ่งกว่าเครื่องปั้นดินเผาประเภทอื่นๆ แม้แต่เครื่องสังคโลกซึ่งเป็นของไทย ผลิตในประเทศไทย ก็ยังไม่แสดงเอกลักษณ์ไทยอย่างเครื่องเบญจรงค์
ภาชนะที่ผลิตจากเบญจรงค์มีหลายประเภท ได้แก่ ชาม จาน โถ จานเชิง ชามเชิง ช้อน กระโถน กาน้ำ ชุดถ้วยชา ฯลฯ การใช้สีบนเครื่องเบญจรงค์ นิยมใช้ห้า สี แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีตั้งแต่ สี่ สี ไปจนถึง แปด สีก็มี จนถึงเจ็ดแปดสี สีหลักที่ใช้ได้แก่ แดง เหลือง ขาว ดำ เขียว หรือน้ำเงิน สีอื่นได้แก่ ชมพู ม่วง แสด น้ำตาล ในสมัยก่อนมีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์สำหรับใช้ในราชสำนัก วังเจ้านาย และบ้านขุนนางชั้นสูง แต่ปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป และเอเซีย สร้างชื่อเสียงและทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมากมายลวดลายที่เขียนบนเครื่องเบญจรงค์ เป็นลายโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้แก่ ลายเทพพนมนรสิงห์ ลายบัวเจ็ดสี ลายประจำยาม ลายเบญจมาศ ลายวิชาเยนท์ ฯลฯ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีลายที่นิยมเพิ่มขึ้นได้แก่ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายนกไม้พญาสิงขร ลายกุหลาบทอง ฯลฯ สำหรับเบญจรงค์ที่มอบให้กับผู้นำเอเปคครั้งนี้ มีทั้งหมด 6 ชิ้น โดยร้านปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ซึ่งเป็นร้านเบญจรงค์เก่าแก่ที่อนุรักษ์ลายโบราณ ตั้งอยู่ที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ช่างของร้านได้เลือกลายวิชาเยนท์เขียน ลงบนเบญจรงค์ชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นลวดลายที่มีความโดดเด่นในการผูกลาย ผสมผสานความเป็นตะวันตก และตะวันออกได้อย่างลงตัว อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทย ความพิเศษของเบญจรงค์ชุดนี้ อยู่ที่เป็นงานฝีมือ หรือที่เรียกว่า หัตถกรรมล้วนๆ ในกรรมวิธีลงลายน้ำทอง และยังใช้น้ำทองคำจริง 22 กะรัตนำเข้าจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มความงดงามล้ำค่าให้กับเครื่องเบญจรงค์ดังกล่าวยิ่งขึ้นเป็นที่น่าภูมิใจที่ไทยเรามีหัตถศิลปอันงดงาม ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้างความประทับใจแก่ชาวต่างชาติที่ได้พบเห็นแล้ว ยังได้เผยแพร่ความเป็นไทยให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์อีกด้วย
เบญจรงค์,(benjarong), โถพญาครู, แจกัน ,ชุดบูชาพระ ,โถพูล ,ของแต่งบ้าน,แก้วมัค, เบญจรงค์ ,จานโชว์ ,ขันตักบาตร, ขันน้ำมนต์ ,แก้วกาแฟเบญจรงค์, ชุดสำหรับอาหารไทย ,ชุดเชี่ยนหมาก,จานเชิง, ตลับเบญจรงค์, ชุดกาน้ำชาเบญจรงค์ ,เตาสปา, ของชำร่วย, ของที่ระลึก ,ค่าบริการพิมพ์ Logo ,โถเบญจรงค์, พวงมาลัยสบู่ .ผลงานของทางร้าน, ของขวัญ, ของชำร่วย ,ของที่ระลึก, ของรับไหว้ ,แต่งงาน ของฝาก ,พรีเมี่ยม, เครื่องเบญจรงค์, เบญจรงค์ลายน้ำทอง, ดอกไม้, แจกัน ร้าน ขาย เครื่อง เบญรงค์
วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555
ช้างโชว์เบญจรงค์ ลายพิกุล D033(ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์)
ประวัติเครื่อง เบญจรงค์ และที่มาแต่ละสมัย แก้วมัค เบญจรงค์ น้ำชา เบญจรงค์ โถ เบญจรงค์ ช้าง เบญจรงค์ ขันตักบาตร เบญจรงค์
ประวัติเครื่อง เบญจรงค์ และที่มาแต่ละสมัย เบญจรงค์ น้ำชา เบญจรงค์ โถ เบญจรงค์ ช้าง เบญจรงค์ ขันตักบาตร เบญจรงค์
********************************************************************************
ประวัติเครื่อง เบญจรงค์ และที่มาแต่ละสมัย เบญจรงค์ น้ำชา เบญจรงค์ โถ เบญจรงค์ ช้าง เบญจรงค์ ขันตักบาตร เบญจรงค์
การทำ เครื่องเบญจรงค์ ถือได้ว่าเป็นงา นด้านศิลปหัตถกรรมของไทยที่มีมา ตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นงานของช่างฝีมือที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น เป็นงานศิลปหัตถกรรมที่แสดง ถึงลักษณะเฉพาะของไทย ในปัจจุบันมีการทำกันในหลายพื้นที่ทั่ว ทุกภาคของประเทศไทย และสามารถใช้ได้กับบุคคลทั่วไป
เครื่องเบญจรงค์เป็นเครื่องถ้วยที่มีการลงสีที่พื้นและลวดลาย เป็นเครื่องปั้นดินเผาประเภท เซรามิคส์ (Ceramics) ใช้เนื้อดิน ประเภทพอร์ซเลน (Porcelain ware) โดยเป็นเครื่องปั้นดินเผาเคลือบที่เขียนลายด้วยวิธีลงยา หรือสีผสมเคลือบ (Enamel) เป็นง านที่มีต้น กำเนิดในประเทศจีน ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ในรัชสมัยพระเจ้าซวนเต๊อะ (พ.ศ. 1969-1978) สมัยราชวงศ์หมิง มีการผลิตครั้งแรก ในแคว้นกังไซ มณฑลเจียงซี (หรือที่คนไทยเรียกว่า กังไส) และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยพระเจ้าเฉิงฮั่ว (พ.ศ. 2008-2030) การเขียนลายตามแบบของจีนจะใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป มีชื่อเรียกในภาษาจีนต่างๆกัน เช่น อู๋ไฉ่ โต้วไฉ่ เฝินไฉ่ และฝาหลั่งไฉ่ ส่วนที่เป็นของไทยนั้น จะนิยมลง 5 สีด้วยกัน คือ ขาว เหลือง ดำ แดง เขียว (คราม) จึงเรียกว่า เครื่องเบญจรงค์ หรือ 5 สี โดยทั้ง 5 สีนี้จัดได้ว่าเป็นแม่สีเครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทย
ในบางครั้งอาจมีการใช้สีมากกว่า 5 สีด้วย เช่น ชมพู ม่วง แสด และน้ำตาล ในอดีตใช้การสั่งทำ ที่ประเทศจีนตามความคิดและลวดลายของไทย การสั่งทำนั้นจะมีช่างของไทยเดินทางไปควบคุมการผลิตเพื่อให้ได้รูปลักษณะที่เป็นแบบไทย เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคที่ 3 ช่วงประมาณรัชสมัย พระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2173-2198)
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พ.ศ. 2199-2231) ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย โดยเฉพาะใน สมัยพระเจ้าวั่นลี่ และต่อเนื่องจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง การสั่งทำจากประเทศจีนในสมัยนั้นได้สั่งทำเป็นโถปริก และโถฝาขนาดกลาง เขียน เป็นลายกนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม ลายนรสิงห์ และยังมีที่เป็นลวดลายของจีน เช่น ลายเทพนมจีน (เทวดาท้องพลุ้ย) มีพื้นสี ต่างๆ เช่น เหลือง ชมพู ม่วงอ่อน เครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทยมีทั้งสั่งทำที่เมืองจิงเต๋อเจิ้น และจากเตาเผาที่มณฑลฝูเจี้ยนและ กวางตุ้ง เครื่องเบญจรงค์ที่สั่งทำจากเมืองจิงเต๋อเจิ้น มักเป็นของใช้ในราชสำนักเพราะเนื้อดินปั้นละเอียด แกร่ง และช่างมี ฝีมือดี เขียนลายได้ละเอียดสวยงาม
ส่วนเครื่องถ้วยลายน้ำทอง จะเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เขียนลายด้วยวิธีลงยาเช่น เดียวกันกับเครื่องเบญจรงค์ แต่จะใช้สีทองที่ทำจากทองคำ ในอดีตเริ่มต้นมาจากการสั่งทำจากประ เทศจีนเช่นเดียวกัน โดยลายน้ำทองนี้ นิยมในประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ชิง ใน รัชสมัยของพระเจ้า คังซี (พ.ศ. 2205-2266) และพระเจ้าหย่งเจิ้น (พ.ศ. 2266-2279) ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จ พระนารายณ์มหาราชจนถึงรัชสมัยพระเจ้าท้ายสระ
ในสมัยนี้มีการสั่งทำเครื่องถ้วยลายน้ำทอง จากประเทศญี่ปุ่นด้วย เครื่องถ้วยลายน้ำทองได้รับความนิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตน โกสินทร์
********************************************************************************
ประวัติเครื่อง เบญจรงค์ และที่มาแต่ละสมัย เบญจรงค์ น้ำชา เบญจรงค์ โถ เบญจรงค์ ช้าง เบญจรงค์ ขันตักบาตร เบญจรงค์
การทำ เครื่องเบญจรงค์ ถือได้ว่าเป็นงา นด้านศิลปหัตถกรรมของไทยที่มีมา ตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นงานของช่างฝีมือที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น เป็นงานศิลปหัตถกรรมที่แสดง ถึงลักษณะเฉพาะของไทย ในปัจจุบันมีการทำกันในหลายพื้นที่ทั่ว ทุกภาคของประเทศไทย และสามารถใช้ได้กับบุคคลทั่วไป
เครื่องเบญจรงค์เป็นเครื่องถ้วยที่มีการลงสีที่พื้นและลวดลาย เป็นเครื่องปั้นดินเผาประเภท เซรามิคส์ (Ceramics) ใช้เนื้อดิน ประเภทพอร์ซเลน (Porcelain ware) โดยเป็นเครื่องปั้นดินเผาเคลือบที่เขียนลายด้วยวิธีลงยา หรือสีผสมเคลือบ (Enamel) เป็นง านที่มีต้น กำเนิดในประเทศจีน ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ในรัชสมัยพระเจ้าซวนเต๊อะ (พ.ศ. 1969-1978) สมัยราชวงศ์หมิง มีการผลิตครั้งแรก ในแคว้นกังไซ มณฑลเจียงซี (หรือที่คนไทยเรียกว่า กังไส) และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยพระเจ้าเฉิงฮั่ว (พ.ศ. 2008-2030) การเขียนลายตามแบบของจีนจะใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป มีชื่อเรียกในภาษาจีนต่างๆกัน เช่น อู๋ไฉ่ โต้วไฉ่ เฝินไฉ่ และฝาหลั่งไฉ่ ส่วนที่เป็นของไทยนั้น จะนิยมลง 5 สีด้วยกัน คือ ขาว เหลือง ดำ แดง เขียว (คราม) จึงเรียกว่า เครื่องเบญจรงค์ หรือ 5 สี โดยทั้ง 5 สีนี้จัดได้ว่าเป็นแม่สีเครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทย
ในบางครั้งอาจมีการใช้สีมากกว่า 5 สีด้วย เช่น ชมพู ม่วง แสด และน้ำตาล ในอดีตใช้การสั่งทำ ที่ประเทศจีนตามความคิดและลวดลายของไทย การสั่งทำนั้นจะมีช่างของไทยเดินทางไปควบคุมการผลิตเพื่อให้ได้รูปลักษณะที่เป็นแบบไทย เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคที่ 3 ช่วงประมาณรัชสมัย พระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2173-2198)
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พ.ศ. 2199-2231) ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย โดยเฉพาะใน สมัยพระเจ้าวั่นลี่ และต่อเนื่องจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง การสั่งทำจากประเทศจีนในสมัยนั้นได้สั่งทำเป็นโถปริก และโถฝาขนาดกลาง เขียน เป็นลายกนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม ลายนรสิงห์ และยังมีที่เป็นลวดลายของจีน เช่น ลายเทพนมจีน (เทวดาท้องพลุ้ย) มีพื้นสี ต่างๆ เช่น เหลือง ชมพู ม่วงอ่อน เครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทยมีทั้งสั่งทำที่เมืองจิงเต๋อเจิ้น และจากเตาเผาที่มณฑลฝูเจี้ยนและ กวางตุ้ง เครื่องเบญจรงค์ที่สั่งทำจากเมืองจิงเต๋อเจิ้น มักเป็นของใช้ในราชสำนักเพราะเนื้อดินปั้นละเอียด แกร่ง และช่างมี ฝีมือดี เขียนลายได้ละเอียดสวยงาม
ส่วนเครื่องถ้วยลายน้ำทอง จะเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เขียนลายด้วยวิธีลงยาเช่น เดียวกันกับเครื่องเบญจรงค์ แต่จะใช้สีทองที่ทำจากทองคำ ในอดีตเริ่มต้นมาจากการสั่งทำจากประ เทศจีนเช่นเดียวกัน โดยลายน้ำทองนี้ นิยมในประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ชิง ใน รัชสมัยของพระเจ้า คังซี (พ.ศ. 2205-2266) และพระเจ้าหย่งเจิ้น (พ.ศ. 2266-2279) ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จ พระนารายณ์มหาราชจนถึงรัชสมัยพระเจ้าท้ายสระ
ในสมัยนี้มีการสั่งทำเครื่องถ้วยลายน้ำทอง จากประเทศญี่ปุ่นด้วย เครื่องถ้วยลายน้ำทองได้รับความนิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตน โกสินทร์
เบญจรงค์(benjarong) โถพญาครู แจกัน ชุดบูชาพระ โถพูล ของแต่งบ้าน แก้วมัค เบญจรงค์ จานโชว์ ขันตักบาตร ขันน้ำมนต์ แก้วกาแฟเบญจรงค์ ชุดสำหรับอาหารไทย ชุดเชี่ยนหมาก จานเชิง ตลับเบญจรงค์ ชุดกาน้ำชาเบญจรงค์ เตาสปา ของชำร่วย ของที่ระลึก ค่าบริการพิมพ์ Logo โถเบญจรงค์ พวงมาลัยสบู่ ผลงานของทางร้าน ของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึก ของรับไหว้ แต่งงาน ของฝาก พรีเมี่ยม เครื่องเบญจรงค์ เบญจรงค์ ลายน้ำทอง ดอกไม้ แจกัน ceramic กระเบื้อง เซรามิค เซรามิก ของฝาก
ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์
เบญจรงค์(benjarong) โถพญาครู แจกัน ชุดบูชาพระ โถพูล ของแต่งบ้าน แก้วมัค เบญจรงค์ จานโชว์ ขันตักบาตร ขันน้ำมนต์ แก้วกาแฟเบญจรงค์ ชุดสำหรับอาหารไทย ชุดเชี่ยนหมาก จานเชิง ตลับเบญจรงค์ ชุดกาน้ำชาเบญจรงค์ เตาสปา ของชำร่วย ของที่ระลึก ค่าบริการพิมพ์ Logo โถเบญจรงค์ พวงมาลัยสบู่ ผลงานของทางร้าน ของขวัญ ของชำร่วย ของที่ระลึก ของรับไหว้ แต่งงาน ของฝาก พรีเมี่ยม เครื่องเบญจรงค์ เบญจรงค์ ลายน้ำทอง ดอกไม้ แจกัน ceramic กระเบื้อง เซรามิค เซรามิก ของฝาก
เบญจรงค์ เป็นชื่อเรียกเครื่องถ้วยที่มีใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ เบญจรงค์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยมีช่างไทยออกแบบลวดลายและสีตามลักษณะของศิลปะไทย เบญจรงค์จึงกลายมาเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยเนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใจเย็นและความเอาใจใส่ชองช่างฝีมือไทย
5 สี "เบญจรงค์" ชื่อเรียกเครื่องถ้วยชนิดหนึ่งที่มีใช้ในประเทศไทยแต่ครั้งอยุธยาสืบถึงรัตนโกสินทร์ เป็นเครื่องถ้วยที่สั่งทำพิเศษจากแผ่นดินใหญ่โพ้นทะเล ช่างไทยออกแบบ ให้ลาย ให้สี ส่งไปให้ช่างจีนผลิตในประเทศจีน แล้วช่างไทยก็ตามไปควบคุมการผลิตให้ออกมาได้รูปลักษณะงามอย่างศิลปะไทย โดยเฉพาะลวดลายสีสันแสดงเอกลักษณ์ไทยชัดเจน
เครื่องเบญจรงค์หมายถึงเครื่องปั้นดินเผาเคลือบ เขียนลายโดยลงยาด้วยสีต่างๆ นอกจากสีหลักทั้ง 5 อันมีสีดำ ขาว เหลือง แดง และเขียว(หรือคราม) ยังมีสีรองอย่างชมพู ม่วง น้ำตาล แสด มาเสริมสวย เป็นเครื่องถ้วยที่ต้องใช้ฝีมือสูง ต้องละเอียด ประณีต จากเครื่องใช้ในรั้วในวังถึงปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ยังได้รับความนิยมโดยเฉพาะในแง่เป็นตัวแทนแสดงความเป็นไทย (แม้รากฐานจะเป็นของจีนก็ตาม)
ย้อนอดีตสู่ช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 รัชสมัยจักรพรรดิซวนเต๊อะ (ครองราชย์พ.ศ.1969-1978) ราชวงศ์หมิง มีการผลิตเครื่องเคลือบเขียนลายลงยาขึ้นครั้งแรกที่แคว้นกังไซ (ไทยเรียกกังไส ที่มาของชื่อเรียกเครื่องกังไส) มณฑลเจียงซี และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในรัชสมัยจักรพรรดิเฉิงฮั่ว (พ.ศ.2008-2030) การเขียนลายโดยวิธีลงยาดังกล่าวใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป
ถึงยุคจักรพรรดิวั่นลิ (พ.ศ.2116-2162) มีการผลิตเครื่องเคลือบแบบเบญจรงค์มากที่สุด ติดต่อมาถึงสมัยราชวงศ์ชิง (ปกครองจีนระหว่างพ.ศ.2187-2454) ความสวยงามเข้าตาสยาม จีนรับออร์เดอร์ไม่หวัดไหวให้ผลิตภาชนะเป็นแบบไทย มีการเขียนลาย ให้สี ส่งเป็นตัวอย่างมาให้ เป็นเบญจรงค์ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นของไทยอย่างยิ่ง ครั้นจะผลิตเองยามนั้นก็ออกจะติดขัดอยู่ เนื่องจากไทยยังไม่มีเทคนิคการผลิตที่ดี มีแต่ฝีมือเยี่ยมในการออกแบบลวดลายได้วิจิตร
เครื่องเบญจรงค์มาแรกเริ่มผลิตในประเทศไทยในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง เป็นเตาเผาของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเครื่องเบญจรงค์ หรือเรียกเครื่องถ้วย มีทั้งแก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ กาน้ำชา ชุดถวายข้าวพระพุทธ ตลับใส่ของ และนานา ขั้นตอนการผลิตเริ่มจาก 1.นำเครื่องเคลือบขาวมาล้างให้สะอาด (หากสามารถ เป็นเครื่องดินเผาที่ปั้นเองก็เข้าที แล้วนำมาเคลือบขาว) 2.ตั้งแป้นวนเส้นกำหนดลาย 3.เขียนลายด้วยน้ำทอง 4.ลงสี 5.วนทองส่วนที่เหลือ และ 6.เข้าเตาเผา
ลายยอดนิยมคือลายกระหนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม นรสิงห์
เครื่องเบญจรงค์ เป็นงานหัตถศิลปล้ำค่า ที่มีความสวยงามแสดงถึงวิถีวัฒนธรรม รสนิยม และเอกลักษณ์ของไทย รัฐบาลจึงเลือกนำมาเป็นภาชนะสำหรับจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภูมิภาคเอเซีย และแปซิฟิค (เอเปค 2003) ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯระหว่างวันที่ 20 – 21 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังจัดทำเป็นของที่ระลึกเพื่อมอบให้กับผู้นำประเทศต่างๆ อีกด้วย เครื่องเบญจรงค์มีการผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด แต่สันนิษฐานจากการขุดพบที่พระนครศรีอยุธยา และจากลักษณะของลวดลาย สี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องถ้วยจีน และบางชิ้นที่มีเครื่องหมายบอกรัชกาล เชื่อว่ามีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์จากประเทศจีนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยช่างคนไทยจะเป็นผู้วาดลวดลาย และเขียนสี ส่งไปผลิตในจีน ดังนั้นลักษณะของเครื่องเบญจรงค์จึงมีความงดงามอย่างไทย ยิ่งกว่าเครื่องปั้นดินเผาประเภทอื่นๆ แม้แต่เครื่องสังคโลกซึ่งเป็นของไทย ผลิตในประเทศไทย ก็ยังไม่แสดงเอกลักษณ์ไทยอย่างเครื่องเบญจรงค์ ภาชนะที่ผลิตจากเบญจรงค์มีหลายประเภท ได้แก่ ชาม จาน โถ จานเชิง ชามเชิง ช้อน กระโถน กาน้ำ ชุดถ้วยชา ฯลฯ การใช้สีบนเครื่องเบญจรงค์ นิยมใช้ห้า สี แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีตั้งแต่ สี่ สี ไปจนถึง แปด สีก็มี จนถึงเจ็ดแปดสี สีหลักที่ใช้ได้แก่ แดง เหลือง ขาว ดำ เขียว หรือน้ำเงิน สีอื่นได้แก่ ชมพู ม่วง แสด น้ำตาล ในสมัยก่อนมีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์สำหรับใช้ในราชสำนัก วังเจ้านาย และบ้านขุนนางชั้นสูง แต่ปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป และเอเซีย สร้างชื่อเสียงและทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมากมายลวดลายที่เขียนบนเครื่องเบญจรงค์ เป็นลายโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้แก่ ลายเทพพนมนรสิงห์ ลายบัวเจ็ดสี ลายประจำยาม ลายเบญจมาศ ลายวิชาเยนท์ ฯลฯ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีลายที่นิยมเพิ่มขึ้นได้แก่ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายนกไม้พญาสิงขร ลายกุหลาบทอง ฯลฯ สำหรับ ร้านเบญจรงค์เก่าแก่ที่อนุรักษ์ลายโบราณ ตั้งอยู่ที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ช่างของร้านได้เลือกลายวิชาเยนท์เขียน ลงบนเบญจรงค์ชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นลวดลายที่มีความโดดเด่นในการผูกลาย ผสมผสานความเป็นตะวันตก และตะวันออกได้อย่างลงตัว อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทย ความพิเศษของเบญจรงค์ชุดนี้ อยู่ที่เป็นงานฝีมือ หรือที่เรียกว่า หัตถกรรมล้วนๆ ในกรรมวิธีลงลายน้ำทอง และยังใช้น้ำทองคำจริง 22 กะรัตนำเข้าจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มความงดงามล้ำค่าให้กับเครื่องเบญจรงค์ดังกล่าวยิ่งขึ้นเป็นที่น่าภูมิใจที่ไทยเรามีหัตถศิลปอันงดงาม ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้างความประทับใจแก่ชาวต่างชาติที่ได้พบเห็นแล้ว ยังได้เผยแพร่ความเป็นไทยให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์อีกด้วย
ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์โถเบญจรงค์ ชำร่วยเบญจรงค์ แก้วเบญจรงค์ รับไหว้ ติดโลโก้
ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์
โถเบญจรงค์ ชำร่วยเบญจรงค์ แก้วเบญจรงค์ รับไหว้ติดโลโก้
โถเบญจรงค์ ชำร่วยเบญจรงค์ แก้วเบญจรงค์ รับไหว้ติดโลโก้
เครื่่องเบญจรงค์เป็นศิลปะร่วมสมัยร้าน ที่ขายเครื่องเบญจรงค์ที่มีคุณภาพ ก็ต้องเป็นเคี่องเบญจรงค์สมุทรสาครผลิตในหมู่บ้านเบญจรงค์ ผลิตทั้งจังหวัดเลยก็ว่าได้ เครื่องเบญจรงค์ลายน้ำทอง เราใช้ทองแท้ๆนำมาเขียนลาย ทางร้านของเราขายชุดเครื่องเบญจรงค์ในราคาย่อมเยาว์ ผลิตเองตั้งแต่ดิน จนมาเป็นเครื่องเบญจรงค์ ใช้ช่างฝีมือชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านเบญจรงค์โดยปราณีต
เลขที่บัญชี
โถลายมังกรเขียนขอบทอง
เบญจรงค์ ประวัติ วิธีการทำ ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์
ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์
เบญจรงค์ เป็นชื่อเรียกเครื่องถ้วยที่มีใช้ในประเทศไทยมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ เบญจรงค์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยมีช่างไทยออกแบบลวดลายและสีตามลักษณะของศิลปะไทย เบญจรงค์จึงกลายมาเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยเนื่องจากเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใจเย็นและความเอาใจใส่ชองช่างฝีมือไทย 5 สี "เบญจรงค์" ชื่อเรียกเครื่องถ้วยชนิดหนึ่งที่มีใช้ในประเทศไทยแต่ครั้งอยุธยาสืบถึงรัตนโกสินทร์ เป็นเครื่องถ้วยที่สั่งทำพิเศษจากแผ่นดินใหญ่โพ้นทะเล ช่างไทยออกแบบ ให้ลาย ให้สี ส่งไปให้ช่างจีนผลิตในประเทศจีน แล้วช่างไทยก็ตามไปควบคุมการผลิตให้ออกมาได้รูปลักษณะงามอย่างศิลปะไทย โดยเฉพาะลวดลายสีสันแสดงเอกลักษณ์ไทยชัดเจน เครื่องเบญจรงค์หมายถึงเครื่องปั้นดินเผาเคลือบ เขียนลายโดยลงยาด้วยสีต่างๆ นอกจากสีหลักทั้ง 5 อันมีสีดำ ขาว เหลือง แดง และเขียว(หรือคราม) ยังมีสีรองอย่างชมพู ม่วง น้ำตาล แสด มาเสริมสวย เป็นเครื่องถ้วยที่ต้องใช้ฝีมือสูง ต้องละเอียด ประณีต จากเครื่องใช้ในรั้วในวังถึงปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ยังได้รับความนิยมโดยเฉพาะในแง่เป็นตัวแทนแสดงความเป็นไทย (แม้รากฐานจะเป็นของจีนก็ตาม) ย้อนอดีตสู่ช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 รัชสมัยจักรพรรดิซวนเต๊อะ (ครองราชย์พ.ศ.1969-1978) ราชวงศ์หมิง มีการผลิตเครื่องเคลือบเขียนลายลงยาขึ้นครั้งแรกที่แคว้นกังไซ (ไทยเรียกกังไส ที่มาของชื่อเรียกเครื่องกังไส) มณฑลเจียงซี และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในรัชสมัยจักรพรรดิเฉิงฮั่ว (พ.ศ.2008-2030) การเขียนลายโดยวิธีลงยาดังกล่าวใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป ถึงยุคจักรพรรดิวั่นลิ (พ.ศ.2116-2162) มีการผลิตเครื่องเคลือบแบบเบญจรงค์มากที่สุด ติดต่อมาถึงสมัยราชวงศ์ชิง (ปกครองจีนระหว่างพ.ศ.2187-2454) ความสวยงามเข้าตาสยาม จีนรับออร์เดอร์ไม่หวัดไหวให้ผลิตภาชนะเป็นแบบไทย มีการเขียนลาย ให้สี ส่งเป็นตัวอย่างมาให้ เป็นเบญจรงค์ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นของไทยอย่างยิ่ง ครั้นจะผลิตเองยามนั้นก็ออกจะติดขัดอยู่ เนื่องจากไทยยังไม่มีเทคนิคการผลิตที่ดี มีแต่ฝีมือเยี่ยมในการออกแบบลวดลายได้วิจิตร เครื่องเบญจรงค์มาแรกเริ่มผลิตในประเทศไทยในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง เป็นเตาเผาของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเครื่องเบญจรงค์ หรือเรียกเครื่องถ้วย มีทั้งแก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ กาน้ำชา ชุดถวายข้าวพระพุทธ ตลับใส่ของ และนานา ขั้นตอนการผลิตเริ่มจาก 1.นำเครื่องเคลือบขาวมาล้างให้สะอาด (หากสามารถ เป็นเครื่องดินเผาที่ปั้นเองก็เข้าที แล้วนำมาเคลือบขาว) 2.ตั้งแป้นวนเส้นกำหนดลาย 3.เขียนลายด้วยน้ำทอง 4.ลงสี 5.วนทองส่วนที่เหลือ และ 6.เข้าเตาเผา ลายยอดนิยมคือลายกระหนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม นรสิงห์ เครื่องเบญจรงค์ เป็นงานหัตถศิลปล้ำค่า ที่มีความสวยงามแสดงถึงวิถีวัฒนธรรม รสนิยม และเอกลักษณ์ของไทย รัฐบาลจึงเลือกนำมาเป็นภาชนะสำหรับจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภูมิภาคเอเซีย และแปซิฟิค (เอเปค 2003) ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯระหว่างวันที่ 20 – 21 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังจัดทำเป็นของที่ระลึกเพื่อมอบให้กับผู้นำประเทศต่างๆ อีกด้วย เครื่องเบญจรงค์มีการผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัด แต่สันนิษฐานจากการขุดพบที่พระนครศรีอยุธยา และจากลักษณะของลวดลาย สี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องถ้วยจีน และบางชิ้นที่มีเครื่องหมายบอกรัชกาล เชื่อว่ามีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์จากประเทศจีนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยช่างคนไทยจะเป็นผู้วาดลวดลาย และเขียนสี ส่งไปผลิตในจีน ดังนั้นลักษณะของเครื่องเบญจรงค์จึงมีความงดงามอย่างไทย ยิ่งกว่าเครื่องปั้นดินเผาประเภทอื่นๆ แม้แต่เครื่องสังคโลกซึ่งเป็นของไทย ผลิตในประเทศไทย ก็ยังไม่แสดงเอกลักษณ์ไทยอย่างเครื่องเบญจรงค์ ภาชนะที่ผลิตจากเบญจรงค์มีหลายประเภท ได้แก่ ชาม จาน โถ จานเชิง ชามเชิง ช้อน กระโถน กาน้ำ ชุดถ้วยชา ฯลฯ การใช้สีบนเครื่องเบญจรงค์ นิยมใช้ห้า สี แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีตั้งแต่ สี่ สี ไปจนถึง แปด สีก็มี จนถึงเจ็ดแปดสี สีหลักที่ใช้ได้แก่ แดง เหลือง ขาว ดำ เขียว หรือน้ำเงิน สีอื่นได้แก่ ชมพู ม่วง แสด น้ำตาล ในสมัยก่อนมีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์สำหรับใช้ในราชสำนัก วังเจ้านาย และบ้านขุนนางชั้นสูง แต่ปัจจุบันเครื่องเบญจรงค์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป และเอเซีย สร้างชื่อเสียงและทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมากมายลวดลายที่เขียนบนเครื่องเบญจรงค์ เป็นลายโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้แก่ ลายเทพพนมนรสิงห์ ลายบัวเจ็ดสี ลายประจำยาม ลายเบญจมาศ ลายวิชาเยนท์ ฯลฯ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีลายที่นิยมเพิ่มขึ้นได้แก่ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายนกไม้พญาสิงขร ลายกุหลาบทอง ฯลฯ สำหรับ ร้านเบญจรงค์เก่าแก่ที่อนุรักษ์ลายโบราณ ตั้งอยู่ที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ช่างของร้านได้เลือกลายวิชาเยนท์เขียน ลงบนเบญจรงค์ชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นลวดลายที่มีความโดดเด่นในการผูกลาย ผสมผสานความเป็นตะวันตก และตะวันออกได้อย่างลงตัว อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทย ความพิเศษของเบญจรงค์ชุดนี้ อยู่ที่เป็นงานฝีมือ หรือที่เรียกว่า หัตถกรรมล้วนๆ ในกรรมวิธีลงลายน้ำทอง และยังใช้น้ำทองคำจริง 22 กะรัตนำเข้าจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มความงดงามล้ำค่าให้กับเครื่องเบญจรงค์ดังกล่าวยิ่งขึ้นเป็นที่น่าภูมิใจที่ไทยเรามีหัตถศิลปอันงดงาม ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้างความประทับใจแก่ชาวต่างชาติที่ได้พบเห็นแล้ว ยังได้เผยแพร่ความเป็นไทยให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์อีกด้วย
ชุดน้ำชา ชุดใหญ่ เบญจรงค์ ลายพิกุล+กล่องผ้าไหม G014
โถเบญจรงค์ เขียนลายพิกุล เพ้นโลโก้
แมวตั้งโชว์ เบญจรงค์ D001
ช้างโชว์ เบญจรงค์ D013
ชุดน้ำชา ชุดใหญ่ เบญจรงค์ ลายพิกุล G010
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนทอง+กล่องผ้าไหม G011
ชุดน้ำชา กลาง เบญจรงค์ทองนูน +กล่องผ้าไหม G013
ชุดน้ำชา ชุดใหญ่ เบญจรงค์ ลายพิกุล G009
ปลาเบญจรงค์ ตั้งโชว์ ขนาด 3 นิ้ว D003
ของชำร่วย ตลับแป้นเจิม
ของชำร่วย ที่ใส่ดอกไม้ หงษ์เบญจรงค์ D031
ชุดน้ำชา ชุดใหญ่ เบญจรงค์ ลายประเพณีสงกรานต์ G008
ของชำร่วย แมวเบญจรงค์ D032
ม้า เบญจรงค์เครื่องทรง D011
ชุดน้ำชา กลาง เบญจรงค์ทองนูน G007
ชุดน้ำชาช้าง กลาง วนมุกเขียนทอง G004
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนลายดอกชมพู G005
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนทอง G006
ชุดกาแฟ เขียนทอง (ชุดใหญ่)+กล่องผ้าไหม F006
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนทอง G003
แจกันปลา เซรามิค ขาว D010
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนทอง G001
ชุดน้ำชา กลาง วนมุกเขียนทอง G002
ตลับหัวใจ ตลับฟักทอง เบญจรงค์ ของชำร่วย D006
กระต่าย เบญจรงค์ใส่พริกไท ของชำร่วย D005
ตลับหัวใจสีทอง เบญจรงค์ D007
ถ้วยกาแฟ วนมุกเขียนทอง F002
ช้างโชว์ เบญจรงค์ ของชำร่วย D016
หมูเบญรงค์ ใส่พริกไท ของชำร่วยD004
ถ้วยกาแฟ ลายทองนูน F003
ตลับหัวใจสีฟ้าหุ้มผ้า D008
ร้าน ขาย เครื่อง เบญจรงค์ เบญจรงค์ อัมพวา เครื่อง เบญจรงค์ ลายน้ำทอง เครื่อง เบญจรงค์ ไทย เครื่อง เบญจรงค์ ขาย ชุด เบญจรงค์ ขาย เครื่อง ลายคราม ประวัติ เบญจรงค์
รห้สสินค้า D008
ตลับหัวใจสีฟ้าหุ้มผ้า
ขนาด 3 นิ้ว
ช้างโชว์ เบญจรงค์ ของชำร่วย D009
ถ้วยกาแฟ วนมุกเขียนทอง F001
แก้วมัค วนมุกเขียนทอง เขียนลายดอกไม้
ชุดน้ำชาช้าง กลาง วนมุกเขียนทอง +กล่องผ้าไหม G012
สุนัขเบญจรงค์ ของชำร่วย D002
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)